เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 พฤศจิกายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงถึงสถานการณ์การชุมนุมคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของกลุ่มต่างๆ ว่า จากการประเมินสถานการณ์ พบว่ากลุ่มพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งปักหลักชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา มีจำนวนประมาณ 43,700 คน ในช่วงเช้าวันนี้เหลือประมาณ 1,100 คน กลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ซึ่งชุมนุมที่บริเวณสะพานผ่านฟ้า เมื่อวันที่ 11 พ.ย. มีจำนวน 2,650 คน ช่วงเช้าวันนี้เหลือจำนวนประมาณ 300 คน  และเมื่อเวลา 09.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 2,500 คน นำโดย พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ พร้อมกับแกนนำ 9 คน  ได้เดินขบวนไปยังพระบรมมหาราชวัง เพื่อยื่นฎีกาขอพระราชทานสภาประชาชน จากนั้นได้เดินกลับมายังจุดชุมนุมบริเวณสะพานผ่านฟ้าเรียบร้อยแล้ว และกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ซึ่งชุมนุมที่บริเวณหน้ากองทัพบก เมื่อวันที่ 11 พ.ย.มีจำนวนประมาณ 1,585 คน ในช่วงเช้าวันนี้เหลือจำนวนประมาณ 200 คน

 

 

พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวว่า กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ได้เข้ามาชุมนุมในพื้นที่ห้ามตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ซึ่งเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ชุดเจรจาของ บช.น.ได้แจ้งให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมออกไป และในวันที่ 9 พ.ย. ชุดเจรจายังได้เข้าไปพูดคุยให้กลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวออกไปอีกครั้ง แต่ปรากฏว่ากลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่ยอมออกไป จึงดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม 2 คน คือ นายนิติธร ล้ำเหลือ และนายอุทัย ยอดมณี ในความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศและข้อกำหนดให้บุคคลเข้าหรือออกในเขตพื้นที่ ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 มาตรา 24 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ตามเลขคดีอาญาที่ 760/2556 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2556

 

 

"ส่วนกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นแกนนำ ได้มีประกาศ 4 ข้อ 1.เชิญชวนให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพ หยุดงานในวันที่ 13-15 พ.ย. 2.เชิญชวนให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพให้ชะลอการเสียภาษี 3.ให้ประชาชนติดธงชาติและสติ๊กเกอร์สัญลักษณ์ธงชาติ 4.ให้ประชาชนพกนกหวีดติดตัว หากพบเห็นฝ่ายรัฐบาล ให้เป่านกหวีดขับไล่ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 117 ผู้ใดยุยงหรือจัดให้เกิดการร่วมหยุดงาน เพื่อบังคับรัฐบาล หรือเพื่อข่มขู่ประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 14,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" พล.ต.ต.อดุลย์กล่าว

 

 

โฆษก บช.น.กล่าวด้วยว่า สำหรับประชาชนผู้ที่ทราบความมุ่งหมายดังกล่าวแล้ว ยังเข้ามามีส่วน หรือเข้าช่วยในการร่วมกันหยุดงาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะนี้ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ต่อพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ข้อหาเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย หรือกระทำความผิดอื่น โดยรับเป็นคดีอาญาที่ 1380/2556 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2556 คาดว่าหลังจากสอบปากคำผู้ที่ร้องทุกข์เสร็จสิ้นแล้ว ในวันที่ 13 พ.ย.จะออกหมายเรียกนายสุเทพ มารับทราบข้อกล่าวหาได้

 

"นอกจากนี้เมื่อเช้ามืดวันที่ 12 พ.ย. เวลาประมาณ 01.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งจุดตรวจ บริเวณแยกเทวกรรม ได้จับกุมตัวนายแสงชัย นาเหล็ก ตรวจค้นพบอาวุธมีดดาบ จำนวน 1 เล่ม และอาวุธขวาน จำนวน 2 เล่ม ในรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ (ติดสติ๊กเกอร์สถาบันแพทย์ฉุกเฉิน-สพฉ.) ซึ่งรถดังกล่าวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง จึงได้ดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนประกาศและข้อกำหนดห้ามนำอาวุธออกนอกเคหสถาน ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ตามคดีอาญาที่ 765/2556 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2556 ซึ่งกรณีนี้จะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้ที่เข้ามาร่วมชุมนุมนั้น ยังมีการพกพาอาวุธเข้ามาในพื้นที่ชุมนุมอยู่ ทำให้การชุมนุมไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทาง บช.น.จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งให้พี่น้องประชาชนผู้ชุมนุม ปฏิบัติตามประกาศและคำสั่งของเจ้าหน้าที่ กรุณาอย่าฝ่าฝืนหรือพยายามเข้ามาในพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่กำหนดให้เป็นพื้นที่หวงห้าม และมีโทษตามกฎหมายอาญา" โฆษก บช.น.กล่าว

 

ขอขอบคุณภาพจาก เดลินิวส์,ไอเอ็นเอ็น

Admin : Chanya