วันนี้ (31 ตุลาคม 2556) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสั่งปิดถนน บริเวณรอบรัฐสภา ตั้งแต่ถนนอู่ทองใน ลานพระบรมรูปทรงม้า หน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถนนเศรษฐศิริ ตั้งแต่ทางเข้าฝั่งพระราม 6 ถึงแยกตัดกำแพงเพชร 5 จนถึงหน้าอาคารรัฐสภา เนื่องจากมีกลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวกันอยู่ที่สถานีรถไฟสามเสน เพื่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทำให้รถประจำทางต้องหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น และสามารถเข้า-ออกรัฐสภาได้ทางถนนอู่ทองในเพียงด้านเดียว พร้อมกับแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว

            ด้าน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์การชุมนุม คาดว่าจะมีมวลชนมาเข้าร่วมประมาณ 2-3 หมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัย พร้อมมอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ จำนวน 40 กองร้อย ประจำการจุดต่าง ๆ รอบพื้นที่สำคัญ ซึ่งหากกลุ่มผู้ชุมนุมมีการเคลื่อนจุดไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมแผนการรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว โดยการข่าวล่าสุด ยังไม่มีรายงานแนวโน้มเหตุความรุนแรง และยืนยันว่า จะยังคงประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ในพื้นที่ตามเดิม ซึ่งจะต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดอีกครั้ง

             เวลา 15.28 น. มีมวลชนจากพื้นที่ต่าง ๆ เริ่มทยอยเดินทางมารวมตัวกันมากขึ้น ขณะที่ทีมงานต่างเร่งจัดเตรียมพื้นที่การชุมนุม ทั้งตั้งเวทีปราศรัย ติดตั้งเครื่องขยายเสียง และกางเต็นท์ เพื่อรองรับกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะเดินทางมารวมตัวกันในช่วงเย็นวันนี้ โดยสังเกตเห็นว่า มีผู้ชุมนุมบางส่วนโดยสารรถไฟมาลงที่สถานีสามเสน ก่อนเดินเท้าเข้าพื้นที่การชุมนุม 

            ส่วนทางด้านการ์ดของผู้ชุมนุมได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ โดยมีการเดินตรวจตราพื้นที่ชุมนุมเป็นระยะ โดยมีสื่อมวลชนจากหลายแขนงมาปักหลักรายงานความคืบหน้าสถานการณ์การชุมนุมในครั้งนี้กันอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ก็เริ่มทยอยเดินทางมายังบริเวณพื้นที่ชุมนุมแล้วเช่นกัน

             เวลาประมาณ 16.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปยังเวทีปราศรัยว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยอมถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร การชุมนุมก็จะยุติลงทันที แต่หากยังมีการเดินหน้าต่อไป ก็จะคัดค้านจนถึงที่สุด อีกทั้งการชุมนุมของภาคประชาชนครั้งนี้ เป็นการต่อสู้เพื่อประเทศชาติ เพื่อต่อต้านรัฐบาลที่ลุแก่อำนาจ ดึงการล้างความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนจะยืดเยื้อหรือไม่นั้น ต้องประเมินสถานการณ์ไปเรื่อย ๆ โดยยืนยันว่า การชุมนุมครั้ง นี้เป็นการชุมนุมที่ปราศจากอาวุธ และจะไม่เกิดเหตุการณ์นองเลือดอย่างแน่นอน

            ทั้งนี้ สำหรับการต่อสู้ของพรรคประชาธิปัตย์ ในสภา ได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว แต่ไม่เป็นผล ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ ส.ส. จะต้องออกมาต่อสู้เคียงข้างประชาชน ส่วนจะลาออกจาก ส.ส. มาต่อสู้เต็มตัวหรือไม่ เป็นเรื่องอนาคต

Admin : Chanya