ปมสังหาร “เอ็กซ์ จักรกฤษณ์“
2013-10-30 14:16:24
 
คืบหน้าคดีสังหาร "เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" ชุดสืบสวนพุ่งเป้าญาติหมอนิ่ม เหตุไม่พอใจบุกด่าแม่ใหญ่
 
จากกรณีการสังหาร เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักแม่นปืนทีมชาติไทย เสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา ความคืบหน้าผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เรียกประชุมชุดสืบสวน โดยชุดคลี่คลายได้พุ่งเป้าไปที่ประเด็นความขัดแย้งภายในครอบครัว
 
ภายหลังใช้เวลาประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง พ.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า การทำงานของมือปืนรับจ้างในคดีแบบนี้ การสอบสวนอาจจะไม่ยาก แต่การที่จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติจับกุมเป็นสิ่งที่ยาก โดยคดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะการสอบสวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 42 ปาก ซึ่งสามารถบ่งชี้ได้ว่าอยู่ในความขัดแย้งในแวดวงของคนใกล้ชิด โดยชุดสืบสวนจะประชุมสรุปคดีอีกครั้งในวันที่ 1 พ.ย. เวลา 10.00 น. ที่บช.น.
 
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งประเด็นน่าสนใจเกี่ยวกับคดีสังหาร "เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" ไว้ 3 ประเด็น ดังนี้
 
1.ตำรวจกำลังตรวจสอบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการกู้เงินระหว่างหมอนิ่มกับญาติพี่น้อง ซึ่ง "เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" มาทราบในภายหลังก็แสดงความไม่พอใจเพราะเป็นเงินจำนวนมาก จนทะเลาะกับครอบครัวหมอนิ่ม นอกจากนี้ชุดสืบสวนยังพบเอกสารการโอนรถปอร์เช่คันเกิดเหตุ ซึ่ง "เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" ซื้อต่อจากญาตของหมอนิ่ม จึงขอตรวจสอบว่าโอนซื้อและจ่ายเงินกันเรียบร้อยแล้วหรือไม่
 
2. สห.ทอ.ทั้ง 4 นาย เบื้องต้นพบว่า หนึ่งในนั้นมีความสนิทสนมใกล้ชิดกับคนในครอบครัวมากอย่างผิดสังเกต อย่างไรก็ตามเบื้องต้นไม่พบความเชื่อมโยงถึงผู้ต้องสงสัยเป็นมือปืนชัดเจน แต่คนที่ตำรวจให้ความสนใจเป็นญาตคนหนึ่งของหมอนิ่ม ซึ่งพบความเคลื่อนไหวและการเชื่อมโยงถึงกลุ่มมือปืน ในส่วนของอาวุธปืนโตกาเรฟ ที่คนร้ายใช้ลงมือสังหาร "เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" ส่วนใหญ่นิยมในกลุ่มคนมีสี ตำรวจกำลังตามเจาะทีละกลุ่มที่นิยมเล่นปืนชนิดนี้อยู่
 
3.ญาติคนดังกล่าวที่ตำรวจให้ความสนใจ พบว่าไม่พอใจพฤติกรรมของ "เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" ตั้งแต่เมื่อครั้งลงไม้ลงมือกับหมอนิ่ม เนื่องจากเวลามีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันหมอนิ่มมักปรับทุกข์กับญาติๆ กระทั่งปัญหายิ่งบานปลายเมื่อ "เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" เกิดฟิวส์ขาด บุกไปอาละวาดด่าทอ "แม่ใหญ่" ซึ่งเป็นบุคคลที่หมอนิ่มและญาติๆ ให้ความเคารพนับถือ ขณะที่ "เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" หลังจากได้สติก็เกิดระแวงถึงอันตราย จนตัดสินใจหนีไปอาศัยอยู่กับเพื่อนที่ จ.นครปฐม ก่อนที่จะกลับเข้ากรุงเทพฯ กระทั่งพบจุดจบดังกล่าว
 
ส่วน สห.ทอ.ทั้ง 4 นาย ที่รับจ้างมาดูแลรักษาความปลอดภัยให้ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยาของนายจักรกฤษณ์และ และลูกๆ ไม่เกี่ยวข้องกัน นั้น
 
รายงานข่าวแจ้งเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ว่า ทางชุดสืบสวนจะตรวจสอบหลักฐานทางเอกสารเพื่อไปเทียบกับคำให้การของพยานที่ตำรวจสอบปากคำ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการกู้ยืมเงินกันระหว่างครอบครัวของ พญ.นิธิวดี เป็นการกู้ยืมเงินกันระหว่างพี่น้อง แต่นายจักรกฤษณ์มาทราบเรื่องทีหลังจึงไม่พอใจว่า ทำไมต้องให้กู้ยืมเงินจำนวนมากด้วย ทำให้มีปัญหาทะเลาะกับครอบครัวของ พญ.นิธิวดี
 
นอกจากนี้ชุดสืบสวนจะตรวจสอบเอกสารการโอนย้าย เรื่องการซื้อรถปอร์เช่คันที่นายจักรกฤษณ์ขับและถูกยิงเสียชีวิตด้วย ส่วนคดีเกี่ยวกับอาวุธปืนเอ็ม 16 นั้น ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเหตุใดนายจักรกฤษณ์ถึงรับเป็นเจ้าของ แต่มีแนวโน้มว่าอาวุธปืนดังกล่าวอาจจะเกี่ยวข้องกับครอบครัวของ พญ.นิธิวดี แต่เป็นเพียงประเด็นความขัดแย้งส่วนหนึ่งเท่านั้น
 
สำหรับประเด็นความขัดแย้งส่วนอื่นนั้น ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังตรวจสอบพยานบุคคลเพิ่มเติมกรณีที่นายจักรกฤษณ์เคยนำปืนไปยิงใส่ป้อมยามหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ นายชวสรณ์ หรือตู้ ภู่เจริญยศ พี่ชาย พญ.นิธิวดี เป็นเจ้าของกิจการจึงสอบปากคำพยานเพิ่มเติมผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่มเติม นอกจากนี้ ทีมสืบสวนกำลังตรวจสอบปมคนใกล้ชิดยืมเงินจำนวน 500,000 บาทจากนายจักรกฤษณ์แต่ยังไม่ใช้คืน อาจทำให้นายจักรกฤษณ์ไม่พอใจด้วย
 
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากนี้จากการตรวจสอบกรณี พญ.นิธิวดี พาหญิงคนสนิทไปทำธุรกรรมที่ธนาคารกสิกรไทย พบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีแต่อย่างใด รวมถึงจะสอบพยานบุคคลที่คอยดูแลหรือช่วยนายจักรกฤษณ์ ซึ่งมีประมาณ 7 คน ที่มีพยานเคยเห็นว่าเคยมากินข้าวต้มหม่งหลีที่บริเวณสามแยกเสรีไทยด้วยกัน เมื่อหลายเดือนก่อนเกิดเหตุ
 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก มติชนออนไลน์ และ ข่าวสดออนไลน์
Admin : Chanya

 


Admin : admin
view
:
1379

Post
:
2013-10-30 14:16:24


ร่วมแสดงความคิดเห็น