เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 ต.ค. 56 นายประสพ สารสมัคร รองนายแพทย์สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) อุบลราชธานี ตัวแทนฝ่ายไทยในศูนย์ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย กรณีเครื่องบินแบบ ATR ของสายการบินลาวแอร์ไลน์ ตกกลางลำน้ำโขง เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก สปป.ลาว เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า หลังจากทางการลาวร่วมกับบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินสายการบินลาวแอร์ไลน์ ทำการกู้ซากเครื่องบินที่ตกลงกลางแม่น้ำโขง ห่างจากจุดตกไปประมาณ 900 เมตร โดยใช้เครนขนาดใหญ่ดึงซากเครื่องบินที่แตกเป็นเสี่ยง และตัวเครื่องขึ้นมาได้เมื่อบ่ายวานนี้ (22 ต.ค.)

 

 

ในเบื้องต้นไม่พบศพติดคาอยู่ในซากเครื่องบิน รวมทั้งยังไม่พบกล่องนิรภัยการบิน หรือกล่องดำ ซึ่งวันนี้ทางการลาวและบริษัทผู้ผลิตได้ทำการค้นหาเพิ่มเติมในจุดที่พบซากเครื่องบินเมื่อวานนี้อีกครั้ง เพื่อค้นหาซากที่เหลืออยู่ โดยก่อนการเริ่มค้นหาในช่วงเช้าทางการลาวได้ทำพิธีบวงสรวงขอขมาต่อแม่น้ำโขง ตามความเชื่อของท้องถิ่น เพื่อให้การค้นหาทำได้สะดวกขึ้น

 

ขณะที่การค้นหาศพผู้เคราะห์ร้ายยังดำเนินการต่อไป โดยเมื่อช่วงค่ำ หลังกู้ซากเครื่องบินขึ้นมาได้ ทีมค้นหาพบศพเพิ่มอีก 1 ศพ และเมื่อตอนเที่ยงวันนี้ ก็พบเพิ่มอีก 1 ศพ ที่ริมแม่น้ำโขง ในเขตเมืองจำปาสัก ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเครื่องบินตกประมาณ 40 กิโลเมตร และคาดว่าจะเป็นศพคนไทยศพสุดท้ายที่ยังตามหาอยู่ คือ นายนิพล ชัยชนะกุลดี อายุ 27 ปี ชาวนนทบุรี เนื่องจากศพที่พบสวมชุดยูนิฟอร์มของ ปตท. ขณะนี้ทางการลาวกำลังเดินทางไปรับศพที่พบล่าสุด เพื่อนำมารวมไว้ที่วัดจีน บ้านโพนสะอาด เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก สปป.ลาว เพื่อทำการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ยืนยันความชัดเจนอีกครั้ง

 

สำหรับเหตุการณ์สายการบินลาวแอร์ไลน์ตกกลางแม่น้ำโขง ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.56 จนถึงขณะนี้ ใช้เวลาในการค้นหาศพผู้เสียชีวิตและการกู้ซากเครื่องบินแล้ว รวมเวลา 7 วัน ซึ่งทางการลาวค้นพบศพผู้โดยสารที่เดินทางมากับสายบินดังกล่าวแล้ว 44 ศพ 28 ชิ้นส่วน จากจำนวนผู้โดยสารและลูกเรือทั้งสิ้น 49 คน และสามารถยืนยันอัตลักษณ์บุคคลได้แล้ว 27 ศพ

 

Admin : Chanya