วันที่ 21 ต.ค. 56 บรรยากาศการชุมนุมของเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่บริเวณแยกอุรุพงษ์ ถ.พระราม 6 ในวันที่ 21 ต.ค. ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมที่นำโดย องค์การนักศึกษา ม.รามคำแหง (อศ.มร.) ยังคงปักหลักชุมนุมประท้วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อเนื่องเป็นวันที่ 12

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมยังเป็นไปด้วยความสงบ เรียบร้อย มีแนวร่วมนักเรียน นักศึกษา และประชาชน ทยอยเข้าร่วมการชุมนุมบริเวณสี่แยกอุรุพงษ์ อย่างต่อเนื่อง ตลอดช่วงบ่ายถึงค่ำ ขณะที่บนเวทีปราศรัยยังคงเป็นการปราศรัย ตอบโต้นโยบายของรัฐบาล คัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรม รวมถึงเรื่องเขาพระวิหาร สลับกับการแสดงดนตรีผ่อนคลายความเครียดให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม

 

นายอุทัย ยอดมณี นายก อศ.มร. ในฐานะแกนนำ คปท. เปิดเผยว่า วันนี้ (21 ต.ค.56) แกนนำ คปท. จะนัดหารือตัวแทนนักศึกษา ตัวแทนประชาชน เพื่อกำหนดยุทศาสตร์ในการขับเคลื่อน รณรงค์ ที่จะให้ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้กฎหมายนิรโทษกรรม ให้ออกมาชุมนุมร่วมกันที่แยกอุรุพงษ์ให้มากที่สุด ก่อนที่จะมีประชุมใหญ่กับกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชนทั่วประเทศ ในวันที่ 27 ต.ค.นี้  

 

“ยืนยันที่จะปักหลักชุมนุมอยู่ที่บริเวณแยกอุรุพงษ์ จนกว่าจะมีความชัดเจนในการประชุมร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชนทั่วประเทศ ในวันที่ 27 ต.ค.นี้ ซึ่งหากเครือข่ายภาคประชาชนมีมติให้เคลื่อนมวลชน ก็พร้อมที่จะเคลื่อนไปด้วย และในระหว่างนี้ จะสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับประชาชน เกี่ยวกับเรื่องเขาพระวิหาร และ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และจะประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชน มาร่วมชุมนุมที่แยกอุรุพงษ์ด้วย” นายอุทัย ระบุ

 

ทั้งนี้ นายอุทัย ในฐานะนายก อศ.มร. ได้เข้ายื่นหนังสือต่ออธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ผ่านนายสมหมาย สุรชัย รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา เพื่อขอดูบันทึกจากกล้องวงจรปิดมหาวิทยาลัยรามคำแหง กรณีป้ายคัตเอาท์ประชาสัมพันธ์ ที่รณรงค์ให้นักศึกษามาร่วมชุมนุมกับกลุ่ม คปท. ที่ติดไว้โดยรอบมหาวิทยาลัย กว่า 20 จุดนั้น หายไปทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา

 

โดยนายอุทัย กล่าวว่า ตนได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนนักศึกษา ว่ามีเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยและนักศึกษากลุ่มหนึ่ง ดำเนินการปลดป้ายออก เมื่อสอบถามก็ได้รับคำชี้แจงว่า มีเพียงนักศึกษา อ้างว่าต้องนำไปแก้ไข แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยเกี่ยวข้องด้วย ทั้งนี้ ตนเชื่อว่ามีคนอยู่เบื้องหลังสั่งการดังกล่าว

 

นายอุทัย กล่าวต่อว่า ในวันที่ 23 ต.ค.นี้ คปท.จะนำมวลชนนักเรียน นักศึกษา และประชาชน เดินเท้าไปวางพวงมาลาถวายสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เนื่องในวันปิยะมหาราช เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และรำลึกถึงคุณูปการที่สมเด็จพระปิยะมหาราช ที่ทรงมีต่อประเทศชาติ รวมทั้งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แนวร่วมของ คปท. เคลื่อนไหวต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับล้มล้างความผิดคอร์รัปชัน บ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ

 

"ขอยืนยันอีกครั้ง จะไม่มีการยึดพื้นที่ดังกล่าว หรือบุกเข้าทำเนียบรัฐบาล ตามที่มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มไปโพสต์สร้างกระแสในโซเซียลเน็ตเวิร์ก หากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะวางกำลังสกัดมวลชน ไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ประกาศพระราชบัญญัติความมั่นคง 3 เขต รอบทำเนียบรัฐบาล และรัฐสภา ซึ่งครอบคลุมพื้นที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า กลุ่มผู้ชุมนุม คปท.ก็ไม่หวั่นใจ ยืนยันจะเดินทางไปสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 อย่างแน่นอน   

 

ทางด้าน นายสมหมาย รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา เป็นตัวแทนมารับหนังสือดังกล่าว พร้อมเปิดเผยว่า กรณีที่นักศึกษาออกไปใช้สิทธิทางการเมือง ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้มีการปิดกั้น ทั้งนี้ เพียงแต่อย่านำชื่อมหาวิทยาลัยไปทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งตนก็พบว่ายังไม่เกิดขึ้นแต่อย่างใด

 

ส่วนกรณีที่มีการปลดป้ายประชาสัมพันธ์ เชิญชวนนักศึกษาออกไปร่วมชุมนุมนั้น ตนก็ยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งในส่วนของการประชาสัมพันธ์ภายในมหาวิทยาลัย สามารถทำได้ ไม่ได้มีการห้ามแต่อย่างใด ทั้งนี้ ก็เป็นสิทธิในการตัดสินใจของนักศึกษาว่าจะมีแนวคิดอย่างไร โดยตนจะนำหนังสือดังกล่าวเสนอต่ออธิการบดี เพื่อขอให้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายใน 2 วันนี้ และหากพบว่ามีบุคคลในมหาวิทยาลัยเกี่ยวข้อง ก็จะทำการสอบสวนและลงโทษทางวินัยต่อไป

 

ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ได้นำเอกสารและข้อมูลของเด็กนักเรียน ที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง พาตัวไปทำประวัติ เนื่องจากขึ้นเวทีปราศรัย คปท. ไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะประธานอนุกรรมการสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง กรณีที่ คปท.ร้องเรียนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เพื่อขอให้ตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาล ที่เข้าข่ายละเมิดสิทธิการชุมนุมของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 ซึ่งมีการขัดขวางการชุมนุม

 

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการรับเอกสาร นพ.นิรันดร์ เปิดเผยว่า จะเชิญผู้เกี่ยวข้องกรณีการชุมนุม คปท. ที่บริเวณแยกอุรุพงษ์ ซึ่งประกอบด้วยแกนนำ คปท. ประชาชนที่มาร่วมชุมนุม และได้รับบาดเจ็บจากเหตุก่อกวน ทั้งการโรยหมามุ่ย และการปาระเบิดเพลิง นักเรียนที่ถูกตำรวจ สน. นางเลิ้ง พาตัวไปทำประวัติ เนื่องจากขึ้นเวทีปราศรัย รวมทั้งประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงที่ชุมนุม เพื่อเข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ในวันที่ 28 ต.ค. เวลา 10.00 น.

 

Admin  : Chanya