รายงานล่าสุด ศาลฏีกาพิพากษาจำคุก นายประชา มาลีนนท์ 12 ปี จำคุก พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ 10 ปี คดีทุจริตรถเรือดับเพลิง ส่วนนายวัฒนา เมืองสุข นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และ นายโภคิน พลกุล ยกฟ้อง ______________________________________________________________ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองนัดฟังคำพิพากษาคดีจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงฯ กรุงเทพมหานคร โดยที่อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่ได้เดินทางมาฟังการอ่านคำพิพากษาในวันนี้ (10 ก.ย.) ศาลฎีกาได้เริ่มอ่านคำพิพากษาเมื่อเวลา 11.30 นาที โดยที่จำเลยในคดีนี้ คือ นายประชา มาลีนนท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พลต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาของศาล สำหรับในคดีนี้มีจำเลยที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ประกอบด้วย นายโภคิน พลกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายประชา มาลีนนท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวัฒนา เมืองสุข ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ จำกัด และ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตผู้ว่าฯ กทม. เป็นจำเลยที่ 1-6 เรียงตามลำดับ โดยคำฟ้องดังกล่าวได้บรรยายความผิดของจำเลยไว้ว่า มีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 จากกรณีการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง ของ กทม. มูลค่า 6,687 ล้านบาท คดีดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร และมีการตรวจสอบมาแล้วหลายปี ทั้งในชั้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ-คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จนนำไปสู่การยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ อันเป็นคดีที่ ป.ป.ช.ตัดสินใจยื่นฟ้องเอง เพราะอัยการเห็นว่าสำนวนไม่สมบูรณ์ ก่อนที่วันนี้ศาลจะนัดอ่านคำพิพาษา ขณะที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลฎีกาได้เลื่อนอ่านคำพิพากษามาแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจาก นายประชา มาลีนนท์ จำเลยที่ 2 ไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ซึ่งศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยที่ 2 มีเจตนาหลบเลี่ยง จึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับ และปรับเงินประกัน 2 ล้านบาท