7 สถานที่ล่องแก่งสุดมันส์ ท้าทายความตื่นเต้น
2013-08-22 17:30:21









7 สถานที่ล่องแก่งสุดมันส์ ท้าทายความตื่นเต้น เมื่อใดที่สายฝนโปรยปรายลงมา นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ฤดูฝนกำลังมาเยือนอีกครา ความเขียวชอุ่มกำลังกลับมา และตามแม่น้ำ ลำธาร หรือน้ำตก เริ่มมีกระแสน้ำไหลพรั่งพรูมาหล่อเลี้ยงให้เย็นฉ่ำ ... เชื่อว่าเหล่าบรรดานักเดินทางที่ชอบความท้าทาย คงคันไม้คันมืออยากไปทำกิจกรรมสุดฮอตสำหรับฤดูฝน นั่นก็คือ การล่องแก่ง เพื่อพิชิตความกล้าและทักทายความหวาดเสียว ซึ่งวันนี้กระปุกท่องเที่ยวก็ได้หยิบเอา 7 สถานที่ล่องแก่งสุดมันส์จากทั่วประเทศมาบอกกันด้วย 1. ล่องแก่งนครนายก แม่น้ำนครนายก เป็นสายน้ำที่มีต้นกำเนิดมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไหลลงมากลายเป็นน้ำตกนางรอง ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำนครนายก ซึ่งไหลมาจากน้ำตกเหวนรกภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กระแสน้ำไหลแรงในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-ตุลาคม โดยจุดเริ่มต้นของการล่องแก่งแม่น้ำนครนายกอยู่ที่บริเวณสะพานท่าด่าน เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของการล่องแก่งแม่น้ำนครนายก คือ ลำน้ำที่คดเคี้ยวตลอดเส้นทาง การล่องทำให้เราได้มีโอกาสฝึกการพายบังคับเรือยาง หรือแคนู-คายัก ให้เลี้ยวซ้ายขวาได้อย่างสนุกสนาน จนสิ้นสุดการล่องแก่งที่บริเวณวังยาว 2. ล่องแก่งปราจีนบุรี "ล่องแก่งหินเพิง" จังหวัดปราจีนบุรี โดยใช้แพยางนั่งได้ประมาณ 8-10 คน ล่องในลำน้ำใสใหญ่ สภาพแก่งน้ำอยู่ในระดับ 3-5 นักล่องแก่งจะต้องใช้ทักษะและความชำนาญในการพายสูง เมื่อนักท่องเที่ยวติดต่อล่องแก่งกับผู้ประกอบการแล้ว ผู้ประกอบการฯ จะพานักท่องเที่ยวไปยังบริเวณ ขญ.9 (ใสใหญ่) และเดินป่าไปยังต้นน้ำ ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 45 นาที จากนั้นจะเริ่มล่องแก่งมายังจุดสุดท้ายบริเวณ ขญ.9 สถานที่ตั้งหน่วยพิทักษ์ป่า ขญ.9 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี 3. ล่องแก่งพิษณุโลก สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้รักการผจญภัยทางน้ำ หรือการล่องแก่งไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง ก็คือ ล่องแก่งลำน้ำเข็ก อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งจัดเป็นสนามล่องแก่งที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย เนื่องจากมีเส้นทางค่อนข้างคดเคี้ยวท้าทายตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา ระยะทาง 8 กิโลเมตร ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับกระแสน้ำและปริมาณของน้ำฝน 4. ล่องแก่ง สตูล ล่องแก่งวังสายธารคลองลำโลน สายน้ำหลักของป่าต้นน้ำปากบารา ที่มีน้ำใส ธรรมชาติสมบูรณ์สองฝั่งคลองเส้นทางของการล่องแก่งสายน้ำที่ใส่และเย็นฉ่ำ ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ผ่านแก่งต่าง ๆ ประมาณ 16 แก่ง ที่รอให้นักเดินทางซึ่งหลงใหลความตื่นเต้นได้ไปสัมผัสกับความมันส์ 5. ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง ล่องแก่งหนานมดแดง ตั้งอยู่ที่ หมู่ 1 ตำบลลานข่อย อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง เป็นทุนเดิมทางธรรมชาติที่มีอยู่แล้วนำมาประยุกต์กับแนวคิดที่ตกผลึกจากการที่ได้ไปสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวล่องแก่งในพื้นที่อื่น ๆ แล้วนำกลับมาปรับใช้กับหนานมดแดงจนก่อเกิด "ล่องแก่งหนานมดแดง" 6. ล่องแก่ง แม่น้ำปาย นอกจากไปเดินชมวิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรมของคนจังหวัดแม่ฮ่องสอนแล้ว กิจกรรมกลางแจ้งที่สนุกสนานตื่นเต้น ท้าทาย ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปท่องเที่ยวมากอีกหนึ่งอย่าง นั่นก็คือ การล่องแก่งแม่น้ำปาย โดยจุดล่องแก่งแม่น้ำปายมีหลายแห่ง ที่นิยมกัน คือ จุดล่องแก่งบ้านน้ำของ ในเขตอำเภอปางมะผ้า โดยการล่องแก่งจะล่องไปตามลำน้ำของ ลัดเลาะไปตามซอกภูเขาของป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ และตั้งแคมป์พักค้างคืนในป่าแห่งนี้หนึ่งคืน พอรุ่งเช้าก็พายเรือล่องแก่งไปตามแม่น้ำต่อไปจนบรรจบกับแม่น้ำปาย 7. ล่องแก่งภูเกาะ สระบุรี หากอยากเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ลองไปล่องแก่ง ณ แก่งภูเกาะ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย โดยจุดลงเรืออยู่บริเวณทางหลวงหมายเลข 2224 กิโลเมตรที่ 13-14 เข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร เพลิดเพลินกับการล่องแก่งเรือยางหรือพายเรือคายัก ตลอดสายน้ำผ่านเกาะแก่งต่าง ๆ กว่า 15 แก่ง เช่น แก่งท่าข้าม แก่งสไลเดอร์ แก่งขวาง แก่งภูเกาะ แก่งวัวข้าม และอีกหลายแก่งด้วยกัน ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยสามารถล่องแก่งได้ตลอดทั้งปี ช่วงเวลาที่เหมาะสม คือ เดือนมีนาคม-ตุลาคม โดยยามน้ำลดเหมาะแก่การพายเรือคายัก ส่วนยามน้ำหลากในช่วงฤดูฝนสามารถล่องเรือยางขนาดใหญ่ อีกทั้งบริเวณแก่งยังมีป่าไม้ที่ยังเขียวขจี มีหมู่แมกไม้นานาพรรณ เช่น ต้นสร้อยอินทนิล ต้นโสก ต้นปอกระสา ระหว่างทางจะได้พบเห็นนกน้อยนานาชนิด ท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์ตลอดเส้นทางการล่องแก่ง
Admin : admin
view
:
2943

Post
:
2013-08-22 17:30:21


ร่วมแสดงความคิดเห็น