'ตาลีบัน'ปล้นคุกปากีฯ ปล่อยนักโทษ250คน เชื่อมีคนในช่วย
2013-07-31 10:18:41





กลุ่มตาลีบันได้ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมระเบิดครบมือบุกเรือนจำกลางที่ปากีสถานโดยความช่วยหลือของคนใน โดยมีนักโทษสามารถหนีจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปกว่า 250 คน เมื่อช่วงเช้ามืดวันอังคารที่ผ่านมา เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 30 ก.ค.2556 เกิดการโจมตีในเมือง เดรา อิสมาอิล ข่าน ของประเทศปากีสถาน กลุ่มตาลีบันได้ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมระเบิดครบมือบุกเรือนจำกลางที่ปากีสถานโดยความช่วยหลือของคนใน โดยมีนักโทษสามารถหนีจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปกว่า 250 คน เหตุดังกล่าวยิ่งเป็นการประกาศศักดาของกลุ่มอัลเคดา และตาลีบันที่บุกโจมตีใจกลางเรือนจำ ที่เรียกได้ว่ามีระบบคุ้มกันแน่นหนาที่สุดแห่งหนึ่ง อีกทั้งยังปล่อยให้นักโทษทหารระดับผู้บัญชาการหนีไปได้อีกด้วย แม้มีการแจ้งเตือนเรื่องการโจมตีในครั้งนี้ประมาณ 2-3 วันก่อนเกิดเหตุ ซึ่งทำให้มีการกล่าวโทษกันถึงความไม่ใส่ใจและการหละหลวมถึงมาตรการการป้องกัน ขณะที่บางคนก็บอกว่าน่าจะมีคนในเรือนจำมีส่วนรู้เห็นกับการก่อเหตุด้วย หลังจากเกิดเหตุราว 1 ชม. เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้มีหารือกันถึงระบบการรักษาความปลอดภัย โดยแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะโจมตีสถานที่แบบนี้หากไม่ได้รับข้อมูลที่ชัดเจนและ ไม่ได้ติดต่อกับคนข้างใน โดยมีนักโทษบางคนที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าน่าจะมีการติดต่อกับกลุ่มตาลีบัน ทางโทรศัพท์มือถือซึ่งได้มาจากพัศดี ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมืองเปชวา ต่อว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในเรือนจำว่า ขี้เกียจและไม่เป็นมืออาชีพ เชื่อว่าต้องมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นด้วยแน่นอน เพราะในคืนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ รปภ. 200 คนที่ควรจะต้องมาเข้าเวรกลับเหลือเพียงแค่ 70 คนเท่านั้น "เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่พากันทิ้งอาวุธและวิ่งหนีเอาชีวิตรอดอย่างอลหม่านหลังการโจมตีเริ่มขึ้น ทั้งๆที่พวกเขาสามารถสังหารกลุ่มตาลีบันที่บุกเข้ามาได้แต่กลับยอมแพ้ แล้วหนีเอาชีวิตรอด ซ้ำยังทิ้งอาวุธไว้ให้กับตาลีบันเสียอีก" เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายนี้กล่าว การบุกเรือนจำครั้งใหญ่เช่นนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วทางตอนเหนือของเมือง บันนู ซึ่งกลุ่มตาลีบันออกมาอ้างว่าได้รับการช่วยเหลือจากจนท.ภายในเรือนจำซึ่งใน วันเกิดเหตุก็มีจนท.รปภ.น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ส่วนการโจมตีครั้งล่าสุดนี้ จนท.ระดับ สูงของตาลีบันบอกกับรอยเตอร์ว่าการมีการวางแผนและสั่ง การโดยนาย อัดนาน ราชิด ผู้บัญชาการกลุ่มตาลีบันที่หนีออกมาจากการบุกเรือนจำปีที่แล้ว ไม่นานหลังเกิดเหตุ กลุ่มตาลีบันออกมาแถลงว่า ได้ส่งหน่วยโจมตีไปราว 100 คน และมือระเบิดพลีชีพอีก 7 คนในการบุกเรือนจำครั้งนี้ และสามารถปล่อยนักโทษออกไปได้ 250 คน ทั้งนี้ การโจมตีเกิดขึ้นในช่วงเช้ามืดของวันอังคาร มีการใช้ระเบิดและยิงปืนกลเข้าใส่เมือง ไคเบอร์ ปัคตุนควา ซึ่งเป็นเขตของเผ่า ปาชตุน และเป็นชายแดนติดกับประเทศอัฟกานิสถาน จากนั้นกลุ่มตาลีบันก็ได้ระเบิดตัดระบบวงจรไฟฟ้าของเรือนจำรวมถึงระเบิดกำแพง แล้วบุกเข้ามาโดยใช่ระเบิดอาร์พีจีและปืนกล พร้อมประกาศชื่อนักโทษที่ต้องการจะช่วยผ่านระบบกระจายเสียง ด้านเจ้าหน้าที่เรือนจำในที่เกิดเหตุเล่าว่า กลุ่มตาลีบันยิงระบบล็อคประตูเรือนจำเกือบทั้งหมดให้เปิดออก และใช้ระเบิดในการเปิดทางเข้าไปด้านในของเรือนจำลึกขึ้นเรื่อยๆและตะโกนว่าประตูเปิดแล้ว ถ้าใครอยากจะหนีก็หนีออกไปเลย นอกจากนี้กลุ่มตาลีบันยังเข้ายึดบ้านเรือนและโรงพยาบาลโดยรอบใช้เป็นฐานที่ตั้งก่อนจะสังหารจนท.ตำรวจจากหลังคา ส่วนนาย กุล โมฮัมเหม็ด จนท.ตำรวจเล่าว่าเขารีบไปที่เกิดเหตุและประจัญหน้ากับเด็กชาย 2 คนกำลังถือปืน ไรเฟิลอยู่และบอกให้เขาหยุด หลังจากที่เขาแสดงตัวว่าเป็นจนท.ตำรวจเด็ก 2 คนนั้นก็เปิดฉากยิงทันที เขาโดนยิงถึง 3 นัดด้วยกัน แต่รอดชีวิตมาได้ จากรายงานของจนท.เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย เป็นตำรวจ 5 นาย และนักโทษอีก 4 ราย ที่เป็นกลุ่มอิสลามนิกายชีอะห์ โดยนักโทษเหล่านั้นถูกปาดคอทุกคน คาดว่าเกิดจากความขัดแย้งทางศาสนา เนื่องจากกลุ่มตาลีบันส่วนใหญ่เป็นมุสลิมนิกายสุหนี่ การโจมตีที่ผ่านการวางแผนเป็นอย่างดีนี้ยิ่งตอกย้ำถึงความสามารถของกลุ่มตาลียันที่กำลังเติบโตขึ้นใน ปากีสถานเช่นเดียวกับในอัฟกานิสถาน ขณะที่นายนาวาซ ชาริฟ นายกรัฐมนตรีออกมากล่าวว่า แม้จะมีการเจรจาสงบศึกในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งในปีนี้ ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการปะทะหรือการโจมตีได้ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์คราวนี้ทำให้เกิดคำถามตามมามากมาย โดยแหล่งข่าวที่เป็นจนท.ความปลอดภัยระดับสูงในเปชวา บอกว่ากองทัพได้ออกมาประกาศเตือนภาวะฉุกเฉินระดับสูงสุดถึงพื้นที่เขตบริเวณ ใกล้เคียงเมืองเดรา อิสมาอิล ข่าน ถึงการโจมตีครั้งใหญ่ราว 4 วันก่อนเกิดเหตุ จนท.อีกคนก็เสริมมีการโทรศัพท์มาแจ้งเตือนมาราว 2 อาทิตย์ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะมีการบุกเรือนจำ มีรายงานด้วยว่าในจำนวนนักโทษ 253 คนที่หนีไปได้นั้น มี 30 คนที่เป็นทหารระดับสูงและอีก 6 คนที่เป็นนักโทษประหาร โดยเชื่อว่านักโทษทั้งหมดน่าจะหลบหนีไปในเขตฐานที่มั่นของกลุ่มตาลีบันทาง ตอนเหนือและใต้ของเมือง วาซริสถาน หากถามถึงความเป็นไปได้ในเรื่องที่มีจนท.ภายในเกี่ยวข้องรู้เห็นกับเรื่องนี้ โฆษกกระทรวงความมั่นคงได้ออกมาแถลงว่า "มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่านักโทษมีโทรศัพท์มือถือใช้ในเรือนจำ เพราะฉะนั้นก็น่าจะต้องมีใครสักคนข้างในที่คอยให้ความช่วยเหลือ" ด้านนักข่าวรอยเตอร์ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่ามีการประกาศเคอร์ฟิวในเมืองจนเหตุการณ์สงบลงเมื่อฟ้าสาง จนท.ตำรวจต่างเดินสำรวจความเสียโดยรอบรวมถึงเก็บซากระเบิดออกจากพื้นที่ การโจมตีครั้งนี้ก่อให้เกิดคำถามที่น่าละอายว่า หน่วยรักษาความปลอดภัยในเรือนจำแห่งนี้ ได้มีการเตรียมมาตรการในการรักษาความปลอดภัยจากการโจมตีครั้งใหญ่ๆที่เกิด ขึ้นอย่างต่อเนื่องไว้บ้างหรือไม่ นอกจากนี้ยังเป็นการลดความน่าเชื่อถือของกองทัพอีกด้วย อนึ่ง เรือนจำที่เกิดเหตุ มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาที่สุดในเมือง เดรา อิสมาอิล ข่าน มีนักโทษกลุ่มตาลีบันอยู่ราว 5,000 คน และกลุ่มสมาชิกนิกายย่อยที่ถูกคว่ำบาตรอย่าง ลัชคาร์ อี จังวี กลุ่มนิกายสุหนี่ที่สังหารหมู่คนอิสลามนิกายชีอะห์ไปกว่าร้อยคนในปีนี้ จนท.รัฐบาล ระดับสูงเมืองเปชวา กล่าวว่า"ที่นี่เรียกได้ว่ามีการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาที่สุดในเมืองก็ว่าได้ เราจะตรวจสอบว่ากลุ่มตาลีบันมีเส้นทางในการบุกเรือนจำครั้งนี้จากฐานพำนัก ที่อยู่ในพื้นที่ค่อนข้างไกลได้อย่างไร" การโจมตีนี้ยังเกิดในวันที่กำหนดให้มีการเลือกประธานาธิบดีคนใหม่และ 2 วันก่อนมีงานเฉลิมฉลองใหญ่ของกลุ่มคนมุสลิมนิกายชีอะห์ ซึ่งจนท.จะเตรียมพร้อมรับการโจมตีอยู่แล้ว
Admin : admin
view
:
1040

Post
:
2013-07-31 10:18:41


ร่วมแสดงความคิดเห็น