การเป็นประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดในเว็บบอร์ดแอดมิชชั่นเว็บเด็กดี สำหรับการะทู้ "ใครจะสอบหมออ่านด่วน ไม่สนใจมีสิทธิ์โดนไล่ออกก่อนได้เรียน" ที่ภายในเนื้อหากระทู้อธิบาย ถึงอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่นจุฬาฯ ศิริราช รามาฯ ม.เชียงใหม่ ม.ขอนแก่น ต่างออกมาแสดงจุดยืน ห้ามนิสิตนักศึกษาแพทย์ ไปรับเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาให้กับสินค้าที่โฆษณาเกินจริง หลังจากล่าสุดมี นักศึกษา ถูกเชิญไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่งที่เหล่าคณาจารย์คณะแพทยศาสตร์ ต่างมีความไม่สบายใจ เพราะสื่อความหมายในภาพยนตร์โฆษณาว่า "ดื่มแล้วสามารถสอบติดคณะแพทยศาสตร์ได้" ซึ่งอาจจะก่อให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดตามมา สืบเนื่องจากประเด็นนี้ โดยที่ก่อนหน้านี้มีนิสิตคณะแพทย์ (จุฬา) ได้มาตั้งกระทู้เล่าเรื่องราว ถึงเพื่อนที่ถูกอาจารย์คณะแพทย์เรียกไปทำติ ถึงการไปรับเป็นพรีเซอนเตอร์สินค้า ที่เกินกว่าความเป็นจริง ทำให้เรื่องนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคมออนไลน รวมไปถึงเครื่องดื่มยี่ห้อที่โฆษณาเกินกว่าความเป็นจริง ซึ่งเรื่องนี้เองทางเว็บไชต์เด็กดี ได้นำประเด็นไปสอบถามอาจารย์ท่านหนึ่งของ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับการเปิดเผยว่า "ทางอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีความไม่สบายใจในเรื่องนี้จริง และได้เรียกนิสิตแพทย์ที่ถูกเชิญไปเป็นพรีเซนเตอร์มาทำความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งไม่ใช่เป็นการตำหนิหรือลงโทษ เพียงแต่เป็นการพูดคุยชี้แจงทำความเข้าใจให้นิสิตได้ทราบว่า เมื่อฝ่าฝันสอบคัดเลือกเข้ามาเป็น นศพ.เต็มตัวแล้ว จะทำสิ่งใดต้องรับผิดชอบต่อสังคม เช่นกรณีการไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ ต้องคำนึงถึงผลที่จะตามมาด้วย เพราะกรณีนี้อาจทำให้รุ่นน้องที่ยึดเป็นต้นแบบ หรือประชาชนในสังคมเกิดความเข้าใจผิดตามมา เพราะโฆษณาสินค้าดังกล่าวมีการสร้างความเชื่อที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ และมีดึงชื่อของคณะแพทยศาสตร์ไปเกี่ยวข้อง" ทางด้าน รศ.พญ.นันทนา ศิริทรัพย์ รองกรรมการอนุกรรมการสอบคัดเลือก กสพท.(หน่วยงานที่ดูแลการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อคณะแพทยศาสตร์ทั่วประเทศ) ได้แสดงความเห็นผ่านทางทีมข่าวการศึกษาเว็บไซต์เด็กดีดอทคอมว่า "ได้เห็นภาพยนตร์โฆษณาชุดที่กำลังถูกพูดถึงแล้ว และมีความไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เพราะทุกวันนี้มีสินค้าหรือองค์กรต่างๆ พยายามประชาสัมพันธ์ว่า หากใช้ผลิตภัณฑ์นี้แล้ว หรือเรียนที่นี่แล้วจะสามารถสอบติดคณะแพทยศาสตร์ได้ ซึ่งไม่เห็นด้วย เพราะการสอบติดคณะแพทยศาสตร์ กับการดื่มเครื่องดื่มนั้นไม่มีความสัมพันธ์กัน การที่นักเรียนจะสอบติดคณะแพทยศาสตร์ได้ อยู่ที่การฝึกฝน และพยายามของแต่ละบุคคล จึงอยากให้สังคม และนักเรียนที่อยากสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์โปรดใช้วิจารณญาณในการรับสื่อ และจากการตรวจสอบภาพยนตร์โฆษณาที่กลายเป็นประเด็น ซึ่งมีพรีเซนเตอรเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยโฆษณาชุดนี้ได้ถ่ายทำก่อนที่นักศึกษาจะทำการมอบตัว และจากเนื้อหาก็ไม่พบว่ามีคำพูดหรือเนื้อหาที่กล้าวอ้างว่า ดื่มแล้วจะสามารถสอบติดคณะแพทย์ได้ ทั้งนี้ คณะชุดดังกล่าวมีการพูดถูกการอยากเป็นหมอฟัน หมอตา หมอฟัน หมอเด็ก หมอศัลย์ หมอผิวหนัง ก่อนที่จะเปิดทางว่าหมอสมอง ซึ่งอาจสร้างความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับวิชาชีพแพทย์