ขีดเส้นตาย "เณรคำ" 7 วันไม่มา ขับพ้นวัด
2013-07-03 15:31:09


เจ้าอาวาสวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ เผย "เณรคำ" เป็นพระลูกวัดในความปกครองของตนจริง ตั้งแต่อายุ 15 ปี ล่าสุดออกหนังสือให้มาชี้แจงในเวลา 3-7 วัน ก่อนให้พ้นสังกัด พร้อมวอนพระสงฆ์ทุกรูปสำรวมและปฏิบัติธรรมอยู่ในพระธรรมวินัย จากกรณีหลวงปู่เณรคำ มีชื่อสังกัดอยู่วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 ก.ค.56 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสอบถาม พระราชธรรมโกศล (สวัสดิ์ ตามสีวัน) เจ้าอาวาสวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ ถ.พรหมราช ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี และในฐานะเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี ฝ่ายธรรมยุติ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวนั้น เณรคำ มีชื่อสังกัดเป็นพระลูกวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ อยู่ในความปกครองของตนจริง โดยเณรคำบวชตั้งแต่อายุ 15 ปี ที่ อ.พิบูลมังสาหาร มีพระครูพิพัฒน์สุนาทมุณี เป็นพระอุปัชฌาย์ให้ มีฉายาว่า ฉัตติโก ส่วนที่เรียกว่าหลวงปู่เณรคำนั้นมาจากญาติโยมที่ศรัทธาเป็นผู้ตั้งให้ หลังบวชอายุได้ 20 ปี เณรคำก็ออกธุดงค์ไปที่ต่างๆ ก่อนไปปักกลดอยู่ที่ ป่าช้าบ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และขอเอาชื่อมาสังกัดอยู่วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ เมื่อปี 2549 ระหว่างขออนุญาตสร้างวัดขันติธรรม แต่เณรคำไม่เคยมาจำพรรษาอยู่ที่วัดตนเลย เพียงแค่เคยมาเทศนาที่วัด 2-3 ครั้งเท่านั้น โดยเณรคำ ถือเป็นพระนักเทศน์ สมัยที่เคยมาเทศนาที่วัดตน มีญาติโยมให้ความเลื่อมใสมาฟังเทศน์เป็นจำนวนมาก แต่ระยะหลังเมื่อตนถามถึงความคืบหน้าในการสร้างวัด พร้อมแนะนำให้รีบสร้างให้แล้วเสร็จ จะได้ขอขึ้นทะเบียนวัด และยังแนะนำให้เณรคำเป็นเจ้าอาวาสด้วย แต่เณรคำก็ไม่ได้ว่าอย่างไร แล้วก็เงียบหายไป กระทั่งมีข่าวออกมาทางสังคมดังกล่าว สำหรับวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ ในฐานะต้นสังกัดของเณรคำ ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสงฆ์ของจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อรอรับผลการตรวจสอบของทางเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษที่จะจัดส่งมาให้ พร้อมจะเร่งออกหนังสือเอกสารคำสั่งให้เณรคำมาชี้แจ้งในเรื่องที่เป็นประเด็นสังคมให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ โดยจะให้ระยะเวลาในการเดินทางมาชี้แจงภายใน 3-7 วัน หากไม่มาจะถือว่าพ้นจากต้นสังกัด เนื่องจากเณรคำไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ก็จะจำหน่ายชื่อออกจากวัดต้นสังกัด และต้องหาสังกัดใหม่ หากไม่มีสังกัดใหม่ก็จะถือว่าพ้นจากการเป็นพระไปโดยปริยาย นอกจากตัวเณรคำเองแล้วที่มาขออาศัยสังกัดอยู่วัดของตน ยังมีพระลูกศิษย์ที่เณรคำบวชให้อีกประมาณ 20 รายมาขออาศัยสังกัดอยู่วัดตนด้วย ซึ่งตนก็จะได้มีการตรวจสอบต่อไป พระราชธรรมโกศล (สวัสดิ์ ตามสีวัน) ยังกล่าวอีกว่า เรื่องราวทางสงฆ์ที่เป็นข่าวมากมายขณะนี้ ตนอยากฝากให้พระสงฆ์ทุกท่านได้มีความสำรวม ปฏิบัติธรรมอยู่ในพระธรรมวินัย ส่วนญาติโยมก็ให้มีสติตั้งใจ วัดเป็นเพียงศาสนสถานโดยทั่วไป ญาติโยมเป็นเจ้าของพระพุทธศาสนา เราต้องดูแลทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาร่วมกัน พระผู้กระทำผิดต้องให้มีการลงโทษไปตามพระวินัย อย่ายึดติดที่ตัวบุคคล ยึดเอาธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นหลัก ส่วนคนผิดก็ให้บ้านเมืองจัดการไป พระที่ประพฤติดีประพฤติชอบยังมีอีกเยอะ พระพุทธศาสนาจะได้ดำรงอยู่สืบไป
Admin : admin
view
:
1295

Post
:
2013-07-03 15:31:09


ร่วมแสดงความคิดเห็น