แฉอีก! หลวงปู่เณรคำถวายเก๋งหรูให้เจ้าคณะภาค
2013-06-19 10:03:41




เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. พระครูวินัยธรธีรวิทย์ ฉนฺทวิชฺโช ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย วัดราชาธิวาส กล่าวถึงกรณีวัตรปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมของ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก (วิรพล สุขผล) วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ว่า สำนักข่าวเอเอฟพีของประเทศฝรั่งเศส ได้โทรศัพท์มาสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับหลวงปู่เณรคำ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับประเทศฝรั่งเศสด้วย และตัวหลวงปู่เณรคำปัจจุบันก็พักอาศัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส โดยสำนักข่าวฯ ถามว่า คนไทยคิดอย่างไรกับหลวงปู่เณรคำ รับการกระทำที่แสดงออกถึงการอวดร่ำอวดรวย อวดอุตริ ซึ่งผิดวิสัยของพระสงฆ์ได้หรือไม่ แล้วศีล 227 ข้อที่พระสงฆ์ โดยเฉพาะหลวงปู่เณรคำ ที่เป็นพระธรรมยุตขาดหรือยัง และพระผู้ปกครองจะลงโทษหรือไม่ ซึ่งตนได้อธิบายว่า เจ้าคณะปกครองจะต้องเรียกไปตักเตือน หรือดำเนินการลงโทษ เพราะอย่างน้อยการแสดงออกของหลวงปู่เณรคำก็ถือว่าผิดเสขิยวัตร ซึ่งหมายถึง วัตรที่ภิกษุจะต้องศึกษาธรรมเนียมเกี่ยวกับมารยาทที่ภิกษุพึงสำเหนียก หรือพึงฝึกฝนปฏิบัติ ให้พึงสำรวมกาย วาจา ใจ ส่วนท่าทีของศูนย์พิทักษ์ฯ ต่อกรณีของหลวงปู่เณรคำ จะมีการประชุมหารือเพื่อวางมาตรการเคลื่อนไหวต่อไป วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีการเผยแพร่รูปถ่ายหลวงปู่เณรคำ ได้ทำพิธีถวายรถยนต์หรู ยี่ห้อโตโยต้า คัมรี ป้ายแดง แด่พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ระดับเจ้าคณะภาค ซึ่งเป็นเจ้าคณะผู้ปกครอง จึงสอบถามไปยังพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ที่เข้าข่ายดังกล่าว แต่ปรากฏว่า ยังไม่ได้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม หลังจากนั้นได้สอบถามไปยังวัดภูเขาแก้ว ต.พิบูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นวัดที่หลวงปู่เณรคำบรรพชาเป็นสามเณรและเข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุญัตติธรรมยุติกนิกาย เพื่อสอบถามถึงลักษณะนิสัยกับพระครูพิบูลธรรมภาณ (หลวงปู่โชติอาภัคโค) ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงสอบถามไปยัง พระระพีพบปณฑิโต พระลูกวัด ได้ความว่า หลวงปู่เณรคำไม่ได้บวชที่วัดภูเขาแก้ว ตามที่มีข่าวอ้างถึงในประวัติของหลวงปู่เณรคำ โดยวัดที่หลวงปู่เณรคำบวชน่าจะเป็นวัดศรีนวล บ้านอ่างศิลา ต.พิบูล อ.พิบูลมังสาหาร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดภูเขาแก้ว และมีพระครูพิพัฒน์สังฆกร เจ้าอาวาสวัดศรีนวล เป็นพระอุปัชฌาย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในประวัติและปฏิปทาของหลวงปู่เณรคำ ระบุว่า เมื่ออายุย่าง 15 ปี ได้ตัดสินใจออกบวช และได้บวชผ้าขาวที่วัดป่าดอนธาตุ บ้านทรายมูล ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร โดยมี หลวงปู่สมบูรณ์ ขันติโก เป็นผู้บวชผ้าขาวให้ ต่อมาเมื่ออายุได้ 15 ปี ได้เข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดภูเขาแก้ว ต.พิบูล อ.พิบูลมังสาหาร โดยมี พระครูพิบูลธรรมภาณ (หลวงปู่โชติ อาภัคโค) เป็นพระอุปัชฌาย์ แล้วได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุญัตติธรรมยุติกนิกาย ณ พัทธสีมาวัดภูเขาแก้ว จ.อุบลราชธานี โดยมี พระครูพิบูลธรรมภาณ (หลวงปู่โชติ อาภัคโค) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับนามฉายาว่า “ฉตฺติโก” ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำ จ.อุบลราชธานี ได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านบิดามารดาของหลวงปู่เณรคำ เลขที่ 999/50 บ้านทรายมูล ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี เมื่อไปถึงหมู่บ้าน พบบ้านหลังใหญ่สีขาว ซึ่งเป็นบ้านของพ่อแม่หลวงปู่เณรคำ ตั้งตระหง่านล้อมรอบด้วยบ้านเรือนชาวบ้าน ภายในบ้านมี พ่อรัตน์ สุขผล อายุ 87 ปี แม่สุดใจ สุขผล อายุ 76 ปี และแม่บ้านอาศัยอยู่ โดยมี นางหว่าน ดอนแก้ว ญาติของหลวงปู่เณรคำ ออกมาพบผู้สื่อข่าว พร้อมบอกว่า พ่อแม่หลวงปู่เณรคำอายุมากแล้ว ไม่สามารถจะพูดคุยได้และไม่รู้เรื่องของหลวงปู่มากนัก ส่วนตัวหลวงปู่เณรคำเองก็ไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านนานแล้ว และได้ขอให้ผู้สื่อข่าวกลับไป โดยไม่ให้ทำข่าวหรือถ่ายภาพ ทางด้านชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่บริเวณรอบบ้านหลวงปู่เณรคำ ระบุว่า ไม่เคยเห็นตัวหลวงปู่เณรคำ เพราะเวลากลับมาบ้านจะมีรถนำขบวนมาแต่ละครั้งประมาณ 20 คัน ส่วนรถของหลวงปู่เณรคำ เมื่อมาถึงก็จะวิ่งเข้าไปจอดในบ้าน เวลาออกไปก็จะติดเครื่องยนต์แล้ววิ่งออกไปเลย ส่วนคนในบ้านหลวงปู่เณรคำก็ไม่ออกมาสุงสิง หรือพูดคุยกับใคร ชาวบ้านจึงไม่รู้เรื่องครอบครัวหลวงปู่เณรคำมากนัก เพิ่งมาทราบข่าวที่เสนอผ่านสื่อต่างๆ นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.) จังหวัดอุบลราชธานี เกี่ยวกับสาขา หรือสำนักปฏิบัติธรรมของหลวงปู่เณรคำ ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี นั้นมีหรือไม่ โดยนายบุญยัง สุวรรณเดชากุล นักวิชาการศาสนาชำนาญการ สำนักงาน พศ.อุบลราชธานี กล่าวว่า สำนักปฏิบัติธรรม หรือวัดป่าขันติธรรม ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ไม่มีการขึ้นทะเบียนไว้กับทางสำนักงาน พศ.อุบลราชธานีเลย โดยสำนักปฏิบัติธรรมในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี มีขึ้นทะเบียนทั้งหมด 20 แห่ง มีวัดที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องทั้งหมด 1,655 วัด แต่ไม่ปรากฏชื่อวัดป่าขันติบารมีเลยแม้แต่ที่เดียว ส่วนเรื่องที่ทางสำนักงาน พศ.อุบลราชธานี จะลงไปตรวจสอบนั้น ต้องมีชาวบ้านมาร้องเรียนก่อนจึงจะสามารถดำเนินการได้ ตามขั้นตอนของระเบียบราชการ
Admin : admin
view
:
3501

Post
:
2013-06-19 10:03:41


ร่วมแสดงความคิดเห็น