จับตาสงครามมือถือ ทางเลือกใหม่ผู้บริโภค เมื่อโอเปอเรเตอร์ผุดแบรนด์ใหม่
2013-06-18 10:46:31


กลายเป็นประเด็นน่าจับตา กับการทยอยเปิดตัวมือถือและแท็บเล็ตแบรนด์ใหม่ลงสู่ตลาดของบรรดาผู้ให้บริการเครือข่าย (โอเปอเรเตอร์) ว่าจะประสบความสำเร็จและกลายเป็นที่นิยมได้หรือไม่ ตั้งแต่ค่ายทรู ที่ชิงเปิดตัวรุ่นบียอนด์พร้อมแบรนด์แอมบาสเดอร์เป็นศิลปินระดับโลก ต่อมากับค่ายดีแทค ที่เปิดตัวดีไวซ์แบบเน้นราคาเบาๆ จับตลาดราคาต่ำกว่า 5,000 บาท ส่วน เอไอเอส ที่แม้จะยังไม่ได้แนะนำแบรนด์ใหม่เป็นของตนเอง แต่ก็มีแผนจะเปิดตัวโดยทำแบรนด์ร่วมกับผู้ผลิตในตลาดในเร็วๆนี้ นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เปิดเผยรายละเอียดว่า ปัจจุบันตลาดระดับไฮเอนด์จะเน้นการทำให้ผู้บริโภคสามารถหาซื้อได้ง่ายขึ้น มีแพ็กเกจผ่อนชำระ เพื่อทำให้รู้สึกอยากใช้งานมากขึ้น ราคาระดับกลางจะเป็นรุ่นที่ผู้บริโภคสามารถซื้อและสามารถผ่อนชำระได้ ขณะที่รุ่นราคา 5,000-10,000 บาท จะมีจำหน่ายในช่องทางอื่นๆ ผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ซึ่งมีความร่วมมือกับผู้ให้บริการสินเชื่อเงินผ่อนต่างๆ จัดโปรโมชั่นการขายร่วมกัน ส่วนเครื่องราคาต่ำกว่า 5,000 บาทลงไป ถือเป็นเครื่องกลุ่มที่มีจำนวนมากและราคาต่ำที่สุดในท้องตลาดนั้น จะเป็นเครื่องที่ไม่ค่อยมีสเปกดีหรือมีคุณภาพไม่ดี บางครั้งอาจมีคุณภาพดีทนทานแต่ก็มักจะมีสเปกเครื่องไม่ดี หรือขาดความน่าเชื่อถือในแบรนด์ มือถือส่วนใหญ่ในตลาดนั้นมีราคาค่อนข้างสูง ในส่วนของแบรนด์ทั่วไปก็มีราคาค่อนข้างสูง ขณะที่ตลาดราคาต่ำกว่า 5,000 บาทนั้น บางรุ่นทำออกมาในลักษณะที่ทนทานแต่สเปกไม่ดี หรือสเปกดีแต่เครื่องก็ไม่ทนทานใช้งานยาก "เราไม่ได้คิดอยากทำตลาดสมาร์ทโฟนในรุ่นไฮเอนด์ซึ่งมีอินเตอร์แบรนด์ทำตลาดอยู่หลากหลายยี่ห้อ แต่ในระดับราคาต่ำกว่า 5 พันบาทนั้นยังไม่มีรายใดให้ความสำคัญอย่างจริงจังและเป็นเจ้าตลาด โดยแบรนด์ที่มีระดับราคาในกลุ่มดังกล่าวส่วนใหญ่คือแบรนด์จีน ส่วนเรื่องความน่าเชื่อถือของแบรนด์ใหม่นั้น มองว่าดีแทคโชคดีที่เรามีจุดยืนชัดเจนและทำเรื่องที่ดีมาโดยตลอด คนทั่วไปรู้จักว่าดีแทคคือใครมีตัวตนอยู่ที่ไหน ถือเป็นอีกข้อดีของดีแทค" นายปกรณ์ กล่าว บริษัทเริ่มกระตุ้นตลาดแมสด้วยการเปิดตัวมือถือในระดับราคาต่ำกว่า 5,000 บาท เพื่อทำให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกคุ้มค่าและได้ใช้เครื่องราคาถูก เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้งาน 3จี พร้อมโปรโมชั่นที่ดีและการเลือกซื้อที่ทำได้อย่างสบายใจ ซึ่งพบว่ามีผลตอบรับดีมาก จากการจัดโรดโชว์ก็มีกระแสตอบรับค่อนข้างดี ขณะนี้เครื่องลอตแรกที่นำมาจำหน่ายราว 60,000 เครื่อง ก็หมดลงแล้วหลังเปิดตัวได้เพียง 1 สัปดาห์ เนื่องจากตัวแทนจำหน่ายและผู้บริโภคให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ถือเป็นความสำเร็จที่เกินคาด โดยรุ่นที่บริษัทให้ความสำคัญเป็นตลาดหลักคือรุ่นเม๊าซี่ ซึ่งเป็นรุ่นเล็กราคาถูกที่สุดเพียง 1,290 บาท เนื่องจากถือเป็นตลาดแมสที่จะตอบโจทย์ผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาเบาแต่ประสิทธิภาพครบครัน นายปกรณ์ ยังบอกด้วยว่า ไม่กังวลเรื่องการทำตลาด เพราะเชื่อว่ามีสื่อโฆษณาที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การทำแบรนด์นั้นถือเป็นเรื่องที่โอเปอเรเตอร์แต่ละรายอาจมีแนวคิดแตกต่างกัน ซึ่งมองว่านโยบายที่ดีแทคใช้นั้นไม่เหมือนกับรายอื่นแต่มั่นใจว่าเหมาะกับลูกค้า ขณะเดียวกัน ก็ไม่รู้สึกกังวลกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อาจมีความต้องการใช้งานสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์เพื่อรองรับบริการ 3จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์ เนื่องจากผู้ใช้สมาร์ทโฟนระดับดังกล่าวก็จะมีพฤติกรรมการใช้งานดาต้าค่อนข้างสูง แต่การจับตลาดระดับล่างนั้นเป็นการสนับสนุนให้คนเริ่มใช้งานดาต้า และเมื่อผู้บริโภคมีประสบการณ์การใช้งานแล้วก็จะมีความต้องการใช้สมาร์ทโฟนที่ดีขึ้นและใช้งานดาต้ามากขึ้นด้วย และทิ้งท้ายว่า ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ามีผู้ใช้บริการ 3จี ครบ 10 ล้านราย จากปัจจุบันที่มีอยู่ราว 6 ล้านราย การเปิดตัวสมาร์ทโฟน 3 รุ่น ทั้งรุ่นชีต้าห์ รุ่นโจอี้ รุ่นเม๊าซี่ ในครั้งนี้ บริษัทไม่ได้คาดหวังยอดขาย เนื่องจากธุรกิจมือถือนั้นเป็นธุรกิจที่ต้องพิจารณาจากสภาพตลาด ไม่แน่ว่าในอีก 4-5 เดือน ข้างหน้าดีแทคอาจหันไปทำตลาดโดยเน้นความร่วมมือกับค่ายผู้ผลิตมือถือก็เป็นได้ เพราะเราตั้งเป้าเป็นผู้ที่นำมือถือคุ้มค่าไปให้บริการแก่ลูกค้า เพื่อส่งเสริมการใช้งานอินเทอร์เน็ตและทำให้ชีวิตทุกคนดีขึ้นเท่านั้น ด้าน นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจโมบายล์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า การที่จะใช้งานเครือข่าย คอนเทนต์และแอพพลิเคชั่นได้เต็มประสิทธิภาพจำเป็นต้องมีดีไวซ์ที่มีประสิทธิภาพรองรับ ซึ่งปัจจุบันมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือกใช้งาน อย่างไรก็ตาม การมีดีไวซ์คุณภาพทัดเทียมแบรนด์ระดับโลกในราคาเหมาะสมจึงเป็นทางเลือกที่ทำให้ลูกค้าได้ใช้บริการ 3G และ 4G LTE และสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ความบันเทิงต่างๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งทรู รุ่นบียอนด์ สามารถรองรับการใช้งานบนเครือข่าย 3G และ 4G LTE รวมถึงคอนเทนท์และแอพพลิเคชั่นของทรูมูฟ เอชได้เป็นอย่างดี ให้รายละเอียดว่า หลังจากเปิดตัวทรู บียอนด์ได้ราว 1 เดือน พบว่ามีกระแสตอบรับค่อนข้างดี ทั้งนี้ มั่นใจว่าลูกค้าจะให้การตอบรับทรู บียอนด์ เป็นอย่างดีจากการที่ ทรูมูฟ เอช มีศิลปินระดับโลกอย่างเกิร์ลเจเนอเรชั่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ทำให้เพิ่มคอนเทนต์หลากหลายที่มีเฉพาะในเครื่องทรู บียอนด์ รวมถึงมีการจัดงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่พร้อมภาพยนตร์โฆษณาที่ถ่ายทอดความน่ารักสดใสของเกิร์ลเจเนอเรชั่น และแอพพลิเคชั่นต่างๆ ในเครื่องทรู บียอนด์ ทำให้ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวางและเป็นที่นิยมในกลุ่มแฟนๆ ของเกิร์ลเจเนอเรชั่น และลูกค้าทั่วไป นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการตลาดอื่นๆ เช่น มอบโบนัสใช้งานฟรีเมื่อซื้อทรู บียอนด์สำหรับลูกค้าทรูการ์ดและลูกค้าที่ย้ายค่ายมาเป็นทรูมูฟ เอช ด้วย รวมถึงสิทธิพิเศษและกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับลูกค้าทรู บียอนด์ ทำให้บริษัทมั่นใจว่าลูกค้าจะให้การตอบรับที่ดีกับทรู บียอนด์ ส่วน นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ อาวุโส ส่วนงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า การให้บริการ 3จี มีเรื่องต่างๆ รวมกันประกอบด้วยเครือข่าย แพ็กเกจ บริการ และอุปกรณ์ ซึ่งทั้ง 4 ส่วนจำเป็นจะต้องถูกส่งมอบไปยังลูกค้าแบบครบถ้วน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ความสำคัญเรื่องอุปกรณ์ถือเป็นหนึ่งเรื่องสำคัญที่บริษัททำมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นหัวใจในการเข้าถึงการใช้งาน 3จี บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ซึ่งบริษัททำการตลาดใน 3 รูปแบบ คือ การทำโปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์ชั้นนำ การทำโค-แบรนด์ แบบเอ็กซ์คูลซีฟแคมเปญ และการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ โดยในเดือนกรกฎาคมนี้จะเปิดตัว Combo set offer ร่วมมือกับผู้ผลิตที่มีแบรนด์อยู่แล้วในตลาด และนำเครื่องมาจำหน่ายโดยใช้ Brand AIS endorsed คู่กัน เพื่อส่งมอบบริการผ่านแบรนด์ของพาร์ตเนอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ และสร้างทางเลือกให้แก่ลูกค้า ขณะที่ นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด ผู้จัดงานไทยแลนด์ โมบายล์ เอ็กซ์โป แสดงความเห็นว่า การที่โอเปอเรเตอร์ลงมาทำดีไวซ์เอง จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมของธุรกิจจำหน่ายมือถืออย่างแน่นอน โครงสร้างของโอเปอเรเตอร์ที่ใช้กันทั่วโลกนั้นยังถือเป็นอันตรายต่อตลาดในประเทศไทย เพราะยังไม่สามารถใช้รูปแบบดังกล่าวได้ทั้งหมด ซึ่งโครงโอเปอเรเตอร์ในต่างประเทศนั้นจะเป็นการขายมือถือแบบผูกกับแพ็กเกจราคา ทำให้สามารถขายเครื่องได้ในราคาไม่แพง "สิ่งที่โอเปอเรเตอร์ทำตอนนี้จะมีผลกับแบรนด์มือถือโดยตรงและค่อนข้างมาก แต่การที่ไม่เน้นทำตลาดรุ่นไฮเอนด์ก็ยังถือเป็นโอกาสของแบรนด์ต่างๆ แต่หากโอเปอเรเตอร์จะทำก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตีตลาดระดับสูงได้ด้วยมือถือหรือแท็บเล็ตในแบรนด์ของตัวเอง ทั้งยังเป็นที่รู้กันว่าธุรกิจขายดีไวซ์ในบ้านเรานั้นมีตัวแทนจำหน่ายเยอะ ในขณะที่ช็อปของแบรนด์ต่างๆ ก็มีจำนวนมาก การที่โอเปอเรเตอร์ลุกขึ้นมาเปิดแบรนด์ของตัวเองจะสร้างความปั่นป่วนให้ระบบอย่างแน่นอน" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น กล่าว นายโอภาส ยังแสดงความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวอีกว่า ส่วนตัวมองว่าการเปิดตัวมือถือ-แท็บเล็ตในแบรนด์ของโอเปอเรเตอร์เองในครั้งนี้ เป็นการทำเพื่อทดลองตลาด ถือเป็นการนำร่องตลาด แต่เชื่อว่าด้วยระดับราคาที่ออกมาในตอนนี้ เรื่องคุณภาพอาจจะสู้แบรนด์ที่มีอยู่แล้วในตลาดไม่ได้ ประกอบกับชื่อรุ่นก็ไม่ชัดเจนพอที่จะทำให้ผู้บริโภคจดจำในเวลาอันสั้น แต่การเปิดตลาดดีไวซ์ของโอเปอเรเตอร์ในครั้งนี้ก็มีข้อดี คือดีต่อผู้บริโภค ทั้งการที่ทำให้มีตัวเลือกมากขึ้น มีระดับราคาที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถกระตุ้นตลาดให้คึกคักได้พอสมควร ส่วนข้อเสียก็คงจะตกอยู่กับตัวแทนจำหน่ายมากกว่า เนื่องจากอาจสร้างความสับสนว่าการขายในอนาคตจะเป็นอย่างไร ขณะเดียวกันผู้ผลิตเฮาส์แบนด์ก็เป็นอีกกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง โดยเฉพาะที่กำลังจะเปิดตัวและทำตลาดในกลุ่มสมาร์ทโฟนเร็วๆ นี้ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น คาดการณ์ว่า ตลาดมือถือในปีนี้เชื่อว่ายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องแต่ไม่ใช่การเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะเชื่อว่าไม่มีปัจจัยกระตุ้นอย่างชัดเจน ทั้งการพัฒนานวัตกรรมหรือลูกเล่นใหม่ๆ เนื่องจากตลาดมือถือนั้นจะคึกคักต่อเมื่อมีการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ แต่ขณะนี้ผู้ผลิตให้ความสำคัญกับการแข่งขันด้านดีไซน์ที่ใกล้เคียงกันมาก ขนาดหน้าจอ และราคา
Admin : admin
view
:
850

Post
:
2013-06-18 10:46:31


ร่วมแสดงความคิดเห็น