จ.พังงา ได้เกิดพายุฝนและลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเขตเทศบาลเมืองพังงา ซึ่งแรงพายุได้ทำให้บ้านเรือนรับความเสียหาย 12 หลัง โดยในจำนวนนั้นมีอาคารพาณิชย์ชั้นเดียว ครึ่งปูนครึ่งไม้ 3 ห้องปลูกติดกันที่สร้างมานานหลายปีภายในซอยพูลสินอุทิศ เขตเทศบาลเมืองพังงา ได้รับความเสียหายอย่างหนักโดยเฉพาะ 2 หลังแรกหลังคาได้ปลิวหายทั้งแทบ ส่วนหลังที่ 3 หลังคาปลิวบางส่วน ได้ทำให้ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านเสียหายเกือบทั้งหมด นอกจากนั้นบ้านเลขที่ 96/1 ถนนเพชรเกษม อ.เมือง จ.พังงา กำแพงปูนเก่าแก่ได้พังถล่มลงมาจนทำให้หลังคาห้องเช่าข้างเคียงจำนวน 6 ห้องพังเสียหาย โชคดีไม่มีผู้ได้รับอันตราย โดยภายหลังเกิดเหตุทางนายเจริญ ศิริรักษ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองพังงา พร้อมด้วย นายจงรัก ผิวขำ ปลัดเทศบาลเมืองพังงา เจ้าหน้าที่ฝ่ายช่าง และฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองพังงา ได้ออกตรวจสอบความเสียหาย เบื้องต้นได้ประกาศให้พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายทั้งหมดเป็นพื้นที่อันตราย ห้ามบุคคลภายนอกเข้า เนื่องจากเกรงอันตรายจากกำแพงที่มีสภาพเก่าจะถล่มลงมาอีก และในส่วนของผู้ที่ได้รับผลกระทบทางเทศบาลได้ดำเนินการพิจารณาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว ด้าน นายวิรัตน์ พรหมรักษา อายุ 38 ปี หนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบ หลังคาบ้านหายไปทั้งแถบ กล่าวว่า ตนพร้อมครอบครัวรวม 8 คนอยู่ในบ้าน กระทั่งได้ยินเสียงลมพัดแรงมาก จนหลังคากระทบกันเสียงดังนานกว่า 3 นาที จากนั้นได้มีลมกระโชกอย่างรุนแรงได้หอบเอาหลังคาบ้านหายไปทั้งแถบ พร้อมทิ้งซากชิ้นส่วนต่างๆตกลงมาในบ้าน จึงรีบพาคนในบ้านหนีออกไปอยู่กลางถนนอย่างทุลักทุเล กระทั่ง 8 นาทีผ่านไปลมพายุจึงสงบลง โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เคยพบเห็นมาก่อน จนเด็กๆพากันร้องไห้ด้วยความตกใจ