เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.มีรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ กรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลในโซเชียลมีเดียว่า กระทรวงพาณิชย์ได้นำข้าวในสต๊อกขายให้กับดีลเลอร์รายใหญ่ของประเทศ ได้แก่ แม็คโคร เทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี นำไปบรรจุถุงเพื่อจำหน่ายให้ประชาชน และเตือนไม่ให้ซื้อมารับประทาน เพราะใช้ยารักษาคุณภาพข้าวอย่างรุนแรง ขนาดหนูทดลองยังแห้งตาย และเสี่ยงเป็นมะเร็ง โดยทางกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า การกล่าวหาในเรื่องดังกล่าวเกินจริง เพราะในการรักษาคุณภาพข้าว จะต้องมีการรมยาตามปกติอยู่แล้ว เพื่อป้องกันมอด ป้องกันแมลง และไม่ได้มีการรมยามากเกินไปกว่ามาตรฐานที่กำหนด การที่ผู้ซื้อมาซื้อข้าวในสต๊อกรัฐบาล เมื่อนำไปบรรจุถุง หรือนำไปส่งออก จะปรับปรุงคุณภาพข้าวอีกครั้ง หากไม่ได้มาตรฐานก็ไม่สามารถนำไปจำหน่ายหรือส่งออกได้ ทั้งนี้ต้องการให้ประชาชนตระหนักถึงข่าวที่เกิดขึ้น และอย่ากังวลมากจนเกินไป เพราะข้าวที่อยู่ในสต๊อก มีการควบคุมคุณภาพ และดูแลคุณภาพเป็นอย่างดี ไม่ใช่จะใช้ยาจนเกินขนาด และทำให้ข้าวมีปัญหา อีกทั้งในการขายให้กับผู้ซื้อนั้น ผู้ซื้อมีการตรวจสอบคุณภาพก่อนที่จะนำข้าวออกไป คงไม่มีใครรับข้าวที่เสื่อมสภาพออกไปขายแน่นอน นางปราณี ศิริพันธ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ข้าวในโครงการรับจำนำมีความปลอดภัย เพราะใช้สารเคมีรมยาที่ผ่านมาตรฐานขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) โดยใช้สารที่ชื่อว่า "อลูมิเนียมฟอสไฟด์" รมยาเพื่อกำจัดแมลงศัตรูพืช เช่น มอด ตามสูตรที่กำหนดโดยกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งในระยะเวลา 5-7 วัน ยาที่รมเข้าไปจะระเหยออกไปหมด จนปลอดภัยกับผู้บริโภค และได้ใช้วิธีการนี้มานานแล้ว เชื่อว่าการปล่อยกระแสข่าวลือดังกล่าว น่าจะมาจากการปล่อยข่าวในเชิงธุรกิจ เพื่อโจมตีคู่แข่งมากกว่า